
ทำไมยิงโฆษณา Facebook หา B2B แต่ยังได้ B2C? (และจะแก้อย่างไรให้โดนกลุ่มธุรกิจจริงๆ)
Published: 10/9/2568
เจ้าของกิจการ B2B ไทยจำนวนมากตั้งค่า Facebook Ads เพื่อหาลูกค้า “องค์กร/นิติบุคคล” แต่กลับมีอินบ็อกซ์เต็มไปด้วย “ผู้บริโภคทั่วไป (B2C)”。นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณคนเดียว—ส่วนใหญ่เกิดจาก “วิธีที่อัลกอริทึมของ Meta เลือกคนเห็นโฆษณา” + “สัญญาณข้อมูลที่เราส่งกลับไปให้ระบบ” ซึ่งบทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่าย พร้อมทางแก้ที่ทำได้เลย
7 เหตุผลหลักที่ B2B ยังติด B2C
- 1) ระบบ Optimize ตาม “คนที่เติมฟอร์มได้ง่ายที่สุด” ไม่ใช่ “ลูกค้าที่ใช่ที่สุด”
ถ้าตั้งเป้าเป็น Leads หรือ Messages ระบบจะไล่หากลุ่มที่ “กดง่าย ตอบเร็ว ต้นทุนถูก” ก่อน ซึ่งมักเป็นผู้บริโภคทั่วไป มากกว่าเจ้าของกิจการที่ยุ่ง/ตัดสินใจช้า
- 2) เปิดการขยายกลุ่ม (Advantage Detailed Targeting / Advantage+ Audience)
เมื่อเปิดฟีเจอร์ขยายความสนใจ/กลุ่มเป้าหมาย ระบบมีสิทธิ์ “วิ่งออกนอกเงื่อนไข” เพื่อให้ได้คอนเวอร์ชันถูกที่สุด—เลยพา B2C เข้ามาโดยไม่รู้ตัว
- 3) สัญญาณความสนใจ/ตำแหน่งงานบน Facebook ไม่ครอบคลุม B2B ทุกอาชีพ
ความสนใจ “ธุรกิจ/ผู้ประกอบการ” กว้างมาก และ Job Title บนโปรไฟล์ไม่ได้อัปเดตเสมอไป จึงหลุดไปหาคนทั่วไปที่สนใจคอนเทนต์ธุรกิจแบบอ่านเล่น3) สัญญาณความสนใจ/ตำแหน่งงานบน Facebook ไม่ครอบคลุม B2B ทุกอาชีพ
ความสนใจ “ธุรกิจ/ผู้ประกอบการ” กว้างมาก และ Job Title บนโปรไฟล์ไม่ได้อัปเดตเสมอไป จึงหลุดไปหาคนทั่วไปที่สนใจคอนเทนต์ธุรกิจแบบอ่านเล่น
- 4) Seed/แหล่งตั้งต้น Lookalike ปน B2C
ถ้าอัปโหลดรายชื่อลูกค้าเดิมที่มีอีเมลฟรี (@gmail ฯลฯ) หรือแฟนเพจเรามีผู้บริโภคปนเยอะ Lookalike ก็จะพา “คนคล้ายกัน” ที่เป็น B2C เข้ามาด้วย
- 5) ครีเอทีฟ/ข้อความ “พูดกับผู้บริโภค” โดยไม่ตั้งใจ
ภาพสต็อกไลฟ์สไตล์กว้างๆ หรือข้อความเชิญชวนแบบผู้บริโภค (“โปรฯ แรง” “ลองเลย”) ทำให้ทั้งคนและระบบตีความว่าเหมาะกับ B2C
- 6) ฟอร์มหรือ Landing Page ไม่มีตัวคัดกรอง B2B
แบบฟอร์มที่ถามสั้นๆ ชื่อ–เบอร์–อีเมล ใครก็กรอกได้ ผลคือมีลีดปริมาณมากแต่คุณภาพต่ำ
- 7) การวัดผลส่งสัญญาณ “ผิดชนิด”
ถ้าเรานับ ทุก Lead = ดี โดยไม่แยก “Qualified Lead (B2B)” กลับเข้า Meta ระบบจะจำว่า “คนแบบนี้ดีนะ” แล้วไปหาคนลักษณะเดียวกันเพิ่ม—ซึ่งอาจเป็น B2C